สำหรับใครที่เดินทางมาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี หรือผ่านไปมาผ่าน เราขอแนะนำอีกหนึ่งสถานที่น่าแวะ วัดถ้ำเสือ หนึ่งในวัดเก่าแก่ของจังหวัดกาญจนบุรี ที่มีพระพุทธรูปปางประทานพรสีทององค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัด หากคุณอยากที่จะมาชมความยิ่งใหญ่อลังการของพระพุทธรูป หรืออยากที่จะมาไหว้พระขอพร ถ่ายรูปสวยๆ วัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาด

ประวัติวัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี

ประวัติวัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี

วัดถ้ำเสือ เป็นวัดโบราณเก่าแก่ ที่มีประวัติมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514 จากคำบอกเล่าที่มีการกล่าวขานกันมานั้น ว่ากันว่า วัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี แห่งนี้ เดิมที เป็นเพียงแค่สำนักสงฆ์เล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในถ้ำบนภูเขา โดยมีหลักฐานประกอบคำบอกเล่า คือ ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปศิลาแลงชำรุดหักพังปรากฏอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ชำรุด จากการถูกทหารพม่าทำลายในช่วงหลายร้อยปีก่อน แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นการเดินทัพในครั้งใด และนอกจากคำบอกเล่าที่กล่าวมา ยังมีบอกต่ออีกว่า บนยอดเขาแห่งนี้มีเจดีย์ที่ก่อด้วยศิลาแลง 3 องค์ แต่ได้ถูกทำลายเสียหายไปจนยากที่จะบูรณะซ่อมแซม และได้มีการสร้างพระอุโบสถและพระใหญ่คร่อมทับไปในที่สุด

  • พ.ศ. 2516 ได้มีการวางแผ่นฤกษ์สร้างหลวงพ่อชินน์ประทานพร
  • พ.ศ. 2517 ได้มีการสร้างบันไดสามสายขึ้นเขา สายละ 158 ขั้น
  • พ.ศ. 2518 มีการสร้างมณฑปครอบรอบพระพุทธบาทเป็นรอยพระบาท
  • พ.ศ. 2522 ลงเสาเอก  สร้างพลับพลา 4 มุข
  • พ.ศ. 2523 สร้างศาลาการเปรียญข้างล่าง
  • พ.ศ. 2525 สร้างกุฏิ และสร้างหอระฆัง 8 มุข
  • พ.ศ. 2526 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ จัดสร้างเป็นพระอุโบสถ 8 มุข
  • พ.ศ. 2527 ปรับพื้นที่เพื่อที่จะสร้างพระเจดีย์
  • พ.ศ. 2533 พระเดชพระคุณ สมเด็จพระสังฆราชเสด็จมาบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ
  • พ.ศ. 2533 สมเด็จพระสังฆราชเสด็จมาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ไว้ในปราสาทจุฬามณีบรมสารีริกธาตุ

จุดเด่นของวัดถ้ำเสือ

จุดเด่นของวัดถ้ำเสือ

สำหรับไฮไลต์ที่สำคัญของ วัดถ้ำเสือ ก็คงจะเป็นอะไรไม่ได้ นอกจากความอลังการของ “พระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่” โดยพระพุทธรูปจะประดับไปด้วยโมเสคสีทอง สูง 9 วา 9 นิ้ว หน้าตักกว้าง 5 วา 3 ศอก 9 นิ้ว อีกทั้งยังมีพระอุโบสถอัฏฐมุขทรงไทย ที่มีการออกแบบลวดลายงดงาม และไฮไลต์เด่นๆ สุดท้ายอีกหนึ่งอย่าง ได้แก่ เจดีย์เกษแก้วมหาปราสาท ที่มีลักษณะเป็นเจดีย์ 8 เหลี่ยม มีความสูงถึง 69 เมตร และกว้างถึง 29 เมตร มีบันไดเวียนสามารถเดินขึ้นไปถึงชั้นบนสุด ที่เป็นชั้นประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศ อินเดีย โดยแต่ละชั้นจะมีภาพเขียนเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและพระมหากษัตริย์ ให้คุณสามารถเดินชมความงามของศิลปะได้อย่างเพลิดเพลิน

วัดถ้ำเสือกาญจนบุรีมีบันไดกี่ขั้น

วัดถ้ำเสือกาญจนบุรีมีบันไดกี่ขั้น

ในการจะเดินขึ้นไปชมความงามของ วัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี นักท่องเที่ยวจะต้องใช้ “บันไดนาคสามสาย” เป็นทางผ่านในการขึ้นเขา โดยบันไดแห่งนี้จะมีขั้นบันไดสายละ 158 ขั้น อาจจะดูเหมือนเยอะ แต่จริงๆ แล้วใช้เวลาเดินเพียงไม่นานก็สามารถขึ้นไปสู่ยอดเขาได้แล้ว และระหว่างทางนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมความงามของธรรมชาติ วิวทิวทัศน์โดยรอบได้ตลอดเส้นทางการเดินอีกด้วย แต่สำหรับผู้ที่กังวลว่าจะเดินขึ้นไม่ไหว ก็สามารถที่จะใช้ลิฟต์สำหรับขึ้นและลงเขาได้เช่นเดียวกัน โดยลิฟต์จะมีค่าบริการอยู่ที่ท่านละ 10 บาท เท่านั้น

สรุปบทความ

หากคุณมีโอกาสเดินทางมาที่จังหวัดกาญจนบุรี สามารถแวะขอพร ชมความงาม และความอลังการของ วัดถ้ำเสือ ที่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ได้เลย แต่ที่จังหวัดกาญจนบุรีนี้ ไม่ได้มีแค่วัดถ้ำเสือเท่านั้น ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ซึ่งที่เที่ยวจังหวัดกาญจนบุรียังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ให้เลือกเที่ยวอีกเพียบ 

ดังนั้นแนะนำเลือกเข้าพักที่ เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์เเคว รีสอร์ท (The Float House River Kwai) เเพรีสอร์ท กาญจนบุรี ที่พักลอยน้ำ สุดยอดบูติครีสอร์ทระดับหรู ที่อยู่ท่ามกลางขุนเขา และธรรมชาติอย่างแท้จริง สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาที่พักกาญจนบุรีติดแม่น้ำดี ๆ บรรยากาศชิลสบาย มีความเป็นส่วนตัว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงมีกิจกรรมให้เลือกทำไม่มีเบื่อ เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์เเคว รีสอร์ท (The Float House River Kwai) ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เป็นที่พักที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง