เมื่อพูดถึงศิลปะที่มีบทบาทกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “ศิลปะขอม” ถือเป็นอีกหนึ่งอารยธรรม ที่มีบทบาทและมีอิทธิพลกับศิลปะในแต่ละยุคสมัยอย่างมากทีเดียว แม้แต่ในประเทศไทยของเราเอง หากเราเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ในประเทศ ก็มักจะเห็นสถาปัตยกรรมขอมเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากใครชื่นชอบงานศิลปะที่มีความแปลกตา สถาปัตยกรรม และศิลปะแบบขอม น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกใจคุณอย่างแน่นอน

ประวัติความเป็นมาของศิลปะขอม

สำหรับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของศิลปะขอม จะเริ่มขึ้นตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 6 ที่มีการเปลี่ยนผ่านจากอาณาจักรโรมัน อาณาจักรเจนละ เจนละบก และเจนละน้ำ ก้าวเข้าสู่ยุคเมืองพระนครอันเลื่องลือที่หลายคนรู้จัก ซึ่งอารยธรรมของขอมจะแบ่งออกเป็น 3 ยุคใหญ่ ๆ ด้วยกัน 

  1. ยุคก่อนเมืองพระนคร (พุทธศตวรรษที่ 11-15)
  2. ยุคเมืองพระนคร (พุทธศตวรรษที่ 15-18)
  3. ยุคหลังเมืองพระนคร (หลังพุทธศตวรรษที่ 19 ไปจนสิ้นอาณาจักรขอม)

ลักษณะเด่นของศิลปะขอม

ลักษณะที่มีความโดดเด่นของศิลปะขอม และสถาปัตยกรรมขอม จะมีความเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละยุค แต่ละสมัย เช่น มหาปราสาทนครวัด, นครธม, ปราสาทบายน และปราสาทบันทายศรี ที่ปัจจุบันอยู่ในเสียมเรียบ (เสียมราฐ) ประเทศกัมพูชานั่นเอง

ลักษณะเด่นของศิลปะขอม

องค์ประกอบสำคัญของสถาปัตยกรรมขอม

ในส่วนองค์ประกอบสำคัญของสถาปัตยกรรมขอม จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนฐาน, ส่วนกลาง และส่วนยอด สามารถอธิบายเพิ่มเติมได้ดังนี้

ส่วนฐาน : โดยทั่วไปของปราสาทขอมส่วนใหญ่ มักจะมีการสร้างขึ้นอยู่บนฐานบัวเตี้ย ๆ ซึ่งในต่อมายุคสมัยของศิลปะแบบบายน ฐานบัวที่ว่านี้ก็ได้มีการพัฒนามาเป็นรูปแบบเฉพาะ ที่เรียกว่า “ฐานบัวลูกฟัก” หรือฐานบัวที่มีการประดับท้องไม้ เอาไว้ด้วยแถบสี่เหลี่ยมคล้ายกับลูกฟัก

ส่วนกลาง : จะเป็นส่วนของอาคารทรงสี่เหลี่ยม ที่ด้านในจะเป็นห้องประดิษฐานรูปเคารพ ส่วนนี้จะเป็นการทำอาคารเพิ่มมุม เพื่อจะออกมุข และรับกับซุ้มประตูทางเข้า ที่บริเวณด้านหน้าของห้องจะมีที่ยื่นออกมา เรียกว่า “มณฑป” และมีตัวเชื่อมที่เรียกว่า “อันตราละ” มีองค์ประกอบเพิ่ม 4 ส่วน

  • เสาติดผนัง หรือวงกบกรอบประตู จะมีลักษณะเป็นเสาสี่เหลี่ยมที่ใช้สำหรับการรองรับน้ำหนักของส่วนบน จะนิยมอย่างมากในการแกะสลักเป็นลวดลายงดงาม เช่น ลายก้านต่อดอก
  • เสาประดับกรอบประตู จะเป็นสิ่งที่อยู่ด้านหน้าวงกบกรอบประตู จุดประสงค์หลักเพื่อการตกแต่ง สามารถที่จะบ่งบอกได้ว่าอายุของศาสนสถานแต่ละแห่งอยู่ในช่วงสมัยใด 
  • ทับหลัง หรือแท่งหินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่จะอยู่บริเวณเหนือกรอบประตูทางเข้า มีลักษณะคล้ายขื่อ มีไว้เพื่อการรองรับน้ำหนักของชั้นหลังคา โดยทับหลังจะมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ ทับหลังจริง และทับหลังประดับ สามารถที่จะบ่งบอกอายุของศาสนสถานแต่ละแห่งได้เช่นกัน
  • หน้าบัน หรือส่วนของหลังคา จะมีรูปทรงเป็นสามเหลี่ยมเหนือทับหลัง ลักษณะคล้ายกันกับหน้าจั่ว ที่บริเวณตัวกรอบของหน้าบัน มักที่จะนิยมทำเป็นตัวนาค และเศียรนาค มีชื่อเรียกว่า “ซุ้มโค้งเข้าโค้งออกแบบขอม” และเช่นเดียวกันกับเสาประดับกรอบประตู และทับหลัง ที่สามารถบ่งบอกถึงอายุของศาสนสถานแต่ละแห่งได้

ส่วนยอด : เป็นส่วนยอดของปราสาท ที่อยู่เหนือเรือนธาตุขึ้นไป จะมีการทำเป็นหลังคาซ้อนชั้นที่ลดหลั่นกัน มีชื่อเรียกว่า “ชั้นวิมาน” หรือ “ชั้นบัญชร” โดยทั่วไปแล้วจะมีทั้งหมด 5 ชั้น ซึ่งในแต่ละชั้นก็จะมีนาคปัก หรือหัวพญานาคประดับอยู่ที่มุมประธานแต่ละด้าน และมี “บันแถลง” หรือซุ้มหน้าต่าง อันเป็นสัญลักษณ์ของวิมาน ที่บริเวณส่วนยอดสูง จะเป็นรูปกลีบบัว ที่มีชื่อเรียกว่า “บัวทรงคลุ่ม” เอาไว้รองรับส่วนยอดที่มีชื่อเรียกว่า “กลศ” ที่มีลักษณะคล้ายกับหม้อน้ำเทพมนต์ ในศาสนาฮินดู

อิทธิพลของศิลปะขอมต่อศิลปะไทย

อิทธิพลของศิลปะขอมเข้ามาสู่ไทยในช่วงพุทธศตวรรษที่ 12 หรือในยุคยุคทวารวดี ซึ่งมีการเผยแพร่เข้ามาทางภาคอีสานผ่านทางศาสนาก่อน และต่อมาในยุคสุโขทัย อยุธยา จนถึงยุครัตนโกสินทร์ ไทยของเราจึงได้มีการนำเอาศิลปะแบบขอมมาผสมผสานเข้ากับศิลปะของท้องถิ่น โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมที่อยู่ภายในวัดต่าง ๆ จะเห็นได้ว่าเป็นศิลปะที่ได้รับอิทธิพลมาจากขอมอย่างชัดเจน

ปราสาทเมืองสิงห์ ตัวอย่างสถาปัตยกรรมขอมที่สำคัญ

สถาปัตยกรรมขอม ปราสาทเมืองสิงห์ คือสถาปัตยกรรมที่สามารถเห็นได้อย่างเด่นชัด เนื่องจากปราสาทแห่งนี้ เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นศาสนสถานในลัทธิมหายาน ช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 มีการวางแผนผังตามแบบคติจักรวาลอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีการขุดค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์อีกมาก เช่น เครื่องมือเครื่องใช้ และศพในยุคสมัยก่อนที่บริเวณใกล้เคียงกัน หากต้องการมาชมความงามของปราสาทเมืองขอม รวมถึงศิลปะต่าง ๆ สามารถเดินทางมาได้ที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี

ปราสาทเมืองสิงห์

สรุปบทความ

และนี่คือข้อมูลเกี่ยวกับศิลปะขอม ที่มีอิทธิพลอย่างมากในอดีต สำหรับนักท่องเที่ยวท่านไหน ที่อยากจะเห็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ อยากที่จะเห็นสถาปัตยกรรมขอมที่มีอายุหลายพัน หลายหมื่นปี สามารถเข้าพักที่เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์เเคว รีสอร์ท (The Float House River Kwai) พูลวิลล่ากาญจนบุรี รีสอร์ท ที่พักกาญจนบุรีริมน้ํา ก่อนไปยังปราสาทเมืองสิงห์ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดกาญจนบุรีได้ รับรองว่าเดินทางมาที่นี่ คุณจะได้ทั้งความสนุก และความรู้กลับไปอย่างแน่นอน!!