เค้าเรียกที่นี่ว่าแพไฮโซ “The Float House River Kwai Resort”
Author : whereistrip
สิ้นปีแล้ววันพักร้อนเหลือต้องทำยังไง?
“ออกเที่ยวสิค้ารออัลไล”
จุดหมายของการพักผ่อนครั้งนี้ของเราอยู่ที่กาญจนบุรี
นั่งดูที่พักวนไปในเว็ปสองจิตสองใจอยากไปนอนหลายที่มากกกกกก
พร้อมแจ้งเตือนที่เด้งอยู่ตลอดว่า “มีคนกำลังดูห้องนี้อยู่อีก … คน”
มีความกดดันมากกกจนต้องรีบกดจองโดยไม่ทันตั้งตัว โดยทริปนี้เราจะเข้าป่าไปสูดโอโซนให้เต็มปอดกันที่
The Float House River Kwai Resort กาญจนบุรี
ที่บอกว่าเข้าป่านี่คือ ที่นี่ให้ความรู้สึกเข้าป่าจริง ๆ
เพราะนอกจากจะต้องขับรถเข้าไปในอำเภอไทรโยคที่ห่างจากตัวเมืองกาญแล้ว
ต้องขับรถเข้าไปที่ท่าเรือพุตะเคียน (ท่าเรือรีโซเทล)เพื่อจอดรถไว้ แล้วนั่งเรือต่อเข้าไปอีกประมาณ 10 นาที
ซึ่งเรื่องที่จอดรถตอนแรกก็กังวลว่าจะเป็นยังไงต้องทิ้งไว้รถจะหายไหมก็ห่วง ๆ แต่ทางรีสอร์ทบอกว่าเป็นที่จอดรถของทางรีสอร์ทเลย
ไม่มีคนนอก โอเคเราก็อุ่นใจ ปะ!!พร้อมแล้วก็ลงเรือเหอะ!
พอถึงรีสอร์ท…เอ้ออออ นี่ไงแพไฮโซที่เค้าว่า
มันดูแบบยิ่งใหญ่อยู่นะ เพราะแพรไม่เคยมานอนแพเลยยยตั้งแต่เกิดมา ครั้งนี้ครั้งแรก
ในความคิดเมื่อก่อนคือแบที่กาญก็คงเป็นแพไม้ไผ่ธรรมดาลอยน้ำงี้ แต่ที่นี่คือแบบเอออแพดูมั่นคง เป็นรีสอร์ทแบบจริงจังเลยอะ
ที่ The float house ลักษณะแพจะเป็นหลังที่ติดกัน แต่ไม่ติดกันมาก งงไหม คือที่แพรเลือกมาที่นี่เพราะรู้สึกว่า
แต่ละแพมันไม่ติดกันจนเกินไปทำให้เราและห้องข้าง ๆ กระโดดน้ำหลังห้องแล้วไม่รบกวนกันแพรว่าโอเคเลยยยย
พอเข้ามาในห้องพักแล้วให้ความรู้สึกว่า เห้ยยนี่เราอยู่ในแพจริงๆหรอเนี่ย
เอาจริงๆมันเนี๊ยบกว่าโรงแรมบางที่อีกน้า คือทุกอย่างแบ่งพื้นที่ได้ลงตัวมากโดยที่ทุกอย่างอยู่บนแพ
ส่วนห้องน้ำที่นี่ก็ยังคงความไฮ ถึงแม้ว่าจะอยู่บนแพที่ค่อนข้างจำกัดพื้นที่ แต่ห้องน้ำเค้าก็ยังแบ่งเป็นส่วนๆ แยกไป
โซนเปียกโซนแห้ง แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าห้องน้ำที่นี่ค่อนข้างโปร่งและเป็นกระจกที่มีแค่ไม้ไผ่ซี่ๆกั้นตรงทางเดิน
คือมันก็มิดชิดอะแหละ แต่เราก็ยังเกร็งๆ
ส่วนห้องอาบน้ำจะเป็น shower มีม่านกั้น อันนี้ก็โล่งเหมือนกัน สามารถเปิดม่านเจอกับห้องข้างๆได้ไม่ยากเลย
อย่างว่าที่นี่ส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติ แพรเลยแก้ไขด้วยการปิดไฟอาบน้ำมันเลย สบายใจ 5555
ออกมาข้างนอกที่ถือว่าเป็น signature ของแพที่นี่เลยก็ว่าได้ คือด้านหลังห้องที่ติดแม่น้ำ
เป็นที่โดดน้ำ ที่นั่งเล่น ที่นอนเลย ที่กลิ้งเล่นได้ ด้วยพื้นที่ที่โคตรกว้างงงงง และอยู่กลางธรรมชาติสุดๆ
แต่ละแพของที่นี่จะเป็นห้องที่มีประตูเล็กๆ และมีพื้นที่เล็กๆระหว่างห้องสามารถ connect หากันได้
แต่ตัวห้องจริงๆ เลยไม่ติดกัน ทำให้ถ้ามากะเพื่อนเราสามารถเดินหากันได้เลยไม่ยาก
ที่สำคัญถึงแม้ว่าแพจะติดกัน แต่แขกทุกคนที่นี่คือแบบมีมารยาทสุด ๆ ไม่เสียงดัง ทำให้ที่นี่ดูเงียบ และได้พักผ่อนจริงๆ
ปล. แต่ช่วงตั้งแต่ 8 โมง ถึง 6 โมงเย็นนี่เรือหางยาวจะมาบ่อยมาก ทำให้แพตรงส่วนที่นั่งเล่นโครงเครงพอสมควร
แต่บนตัวบ้านไม่โยกเลยดี๊ดี แต่หลังจาก 6 โมงเย็นก็จะเงียบสงบสุดดดดด
ส่วนอาหารการกิน ถ้าไม่อยากออกไปไหนก็มาทานได้ที่ห้องอาหารได้เลย
เพราะถ้าจะออกจากรีสอร์ทแต่ละครั้งมันค่อนข้างยาก เพราะต้องนั่งเรือออกไปแล้วขับรถต่อออกไปอีก
แล้วถ้าหากกลับมาเกินเวลาเรือหมดจะมีค่าใช้จ่าย 1,000 ต่อลำเลยนะ แพรเลยตัดสินใจ กินมันที่นี่แหละไม่ต้องออกไปไหนหรอก
ไหนๆก็มาพักผ่อนให้สบายจะออกไปลำบากทำไมมมมม
ช่วงเย็น ๆ ก็เดินมาเลียบ ๆ เคียง ๆ พี่พนักงานว่าถ้าอยากได้ที่นั่งทานข้าวริมน้ำต้องจองไหมคะ
พี่เค้าบอกว่าไม่มีจองน๊าใครมาก่อนได้ก่อน โอเคเลยยแบบนี้ชอบอ่าเท่าเทียมกันดี เลิฟฟฟฟฟ
วันนั้นแพรเลือกทานอาหารไทยส่วนรสชาติอาหารถือว่าโอเคเลย โดนใจ อร่อย แบบไม่อวยไม่เสียดายตังค์
ราคาอาหารถือว่าไม่แพงมากอยู่ในระดับที่พอใจ แฮปปี้
แต่มีอย่างนึงที่ยังติดค้าง ฮ่า ๆ คือแพรสั่งแพนงหมู ตามความเข้าใจและรูปในเมนูมันคือแกงที่มีกะทิอะ
แต่ดันได้คล้าย ๆ ผัดเผ็ดมา ถามพี่เค้าแล้วเค้าบอกอันเนี้ยยแพนงหมู แพรโอเคเลยตามเลยไม่อยากเรื่องมาก
กินก็ได้เพราะก็อร่อยอยู่ ใครไปลองสั่งแพนงหมูน๊าว่าจะได้แบบแพรไหม ฮ่าๆ
วันแรกพักผ่อนอย่างหนักหน่วงและสลบไปท่ามกลางธรรมชาติที่ช่วงกลางวันค่อนข้างจะร้อน
แต่พอตื่นมาเจอวิวหลังห้องตอนเช้าเท่านั้นแหละ ไม่รู้จะพูดยังไง มันดีย์มากก มันเย็นสบาย มันสงบ(เพราะเรือยังไม่วิ่ง ฮ่าาา)
คือคุ้มที่ยอมตื่นเช้าขึ้นมาเพื่อสูดอากาศสดชื่น ๆ แบบนี้
ส่วนอาหารเช้าก็มาทานที่นี่ที่เดิม อาหารเช้าเป็นบุปเฟต์ มีทั้งแบบอเมริกัน และอาหารไทย รสชาติโอเคเลย ถูกปากแพรนะ
บวกกับวิวตอนเช้าหมอกลงเบาๆ นี่มันแบบโอ้ยยแบบนี้แหละที่อยากเจอทุกวัน ฮ่าๆ
กิจกรรม The Float House River Kwai Resort
กิจกรรมที่นี่อย่างที่เรารู้กันว่าถ้าไม่มานี่เหมือนมาไม่ถึงก็คือโดดน้ำไง
ที่นี่เค้ามีชูชีพให้เราสามารถมาหยิบได้ที่หลังล็อบบี้แล้วมาโดดที่หน้าห้องเราเลย ต้องใส่ชูชีพนะ เพราะว่าน้ำแรงมว้ากกกก
ส่วนทางขึ้นอีกทีก็คือสุดนู้นนนสุดรีสอร์ท
จะมีธงแดงและบันไดให้ขึ้น บอกเลยว่าน้ำแรงมว้าก ครั้งแรกของการลงน้ำที่กาญของแพรเลยก็ว่าได้
ก็ยังกลัวๆเกร็งๆ แต่สามารถรอดกลับมาได้ แฮปปปปปปปปี้
ถ้าใครชอบสำรวจธรรมชาติ ที่ด้านบนของรีสอร์ทก็มีถ้ำละว้ามีค่าเข้า 100 บาท
กว่าจะเดินขึ้นไปถึงถ้ำต้องเดินขึ้นบันไดไปร้อยกว่าขั้น หืดขึ้นคอกันเลยทีเดียว
นอกจากนี้ที่ด้านบนยังมีจักรยานให้บริการฟรีสำหรับผู้เข้าพักเพื่อขี่ชมสวนผลไม้
ให้ผู้เข้าพักสามารถเข้าเยี่ยมชมและเด็ดผลไม้มาให้พี่ๆพนักงานปอกให้ทานได้เลยโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ดี๊ดี
จริงๆที่นี่เค้ามีกิจกรรมให้อีกเยอะมาก แต่ด้วยความที่ห้องเต็มและแพรจองได้แค่คืนเดียว
เวลาน้อยมากแต่สัญญาว่าจาไปอี๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
บอกเลยว่าที่นี่โดนใจจริง ๆ เพราะนอกจากจะได้อยู่กับธรรมชาติจริง ๆ แล้ว ที่นี่ยังเงียบสงบไม่รวมคลื่นจากเรือหางยาวนะ 55
คือมาที่นี่แล้วได้พักผ่อนจริงๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก กิน นอน โดดน้ำ กิน นอน โดดน้ำ วนไปยั่งงี้ ทุกอย่างโอเคประทับใจ
ห้องพักสมราคา อาหารอร่อย จองยากก็ต้องจอง ทริปกาญครั้งแรกของแพร แฮปปี้มากกก